การบริหารจัดการปุ๋ยของสวนผลไม้แห่งหนึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ (จบ)
ผมได้มีโอกาสไปกราบ ท่านอาจารย์ฯ และได้พบว่า ในสวนนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ คือ
๑. ไม่พบการเก็บใบไม้แห้งไปใส่โคนต้นไม้
๒. ไม่พบการโกยดินตะกอนก้นอ่างเก็บน้ำไปใส่โคนต้นไม้
๓. ไม่พบการใส่ปุ๋ยเคมีแต่งหน้าในส่วนที่ขาดไปจากข้อ ๑ และ ๒
๔. ท่านอาจารย์ฯ บอกว่า ท่านพบโดยบังเอิญ คือ มีอยู่ ๒ – ๓ ปีที่ท่านเก็บตัวอย่างดินในสวนไปวิเคราะห์หาปริมาณธาตุอาหารในดิน ๒ – ๓ ครั้ง/ปี
ท่านอาจารย์ฯ พบว่า ผลการวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในช่วงเวลาต่างๆกันนั้น ไม่มีความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเกือบ ๑๐ ปีแล้วที่ ท่านอาจารย์ฯ
๑. ไม่ได้โกยดินตะกอนก้นอ่างเก็บน้ำใส่โคนต้นไม้
๒. ไม่ได้เก็บใบไม้แห้ง ใส่โคนต้นไม้อีกเลย
แต่ทำเพียง
๑. ทำเพียงแค่ ตัดหญ้าโคนต้นไม้ แล้วปล่อยปรกไว้อย่างนั้น และ
๒. ทำการให้น้ำแก่ต้นไม้เท่านั้น
แต่ก็พบว่า
๑. มะยงชิด ผลเท่าไข่ไก่เบอร์ ศูนย์
๒. ลองกอง ออกผลปีละ ๒ ครั้ง
๓. ผลไม้ทุกต้นให้ผลผลิตดี
ผมได้สอบถาม ท่านอาจารย์ฯ ว่าแล้วจะให้ผลไม้มีผลดกและะผลใหญ่ได้อย่างไรครับ ?
ท่านอาจารย์ฯ ตอบว่า อยากได้ผลใหญ่ ก็อย่าให้ผลดก อยากได้ผลดก ก็ต้องได้ผลเล็ก ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเอาทั้งผลดกและผลใหญ่ย่อมเป็นไปไม่ได้
สรุปแล้วทุกวันนี้ ท่านอาจารย์ฯ ดูแลสวนผลไม้ ๕๐๐ ไร่ โดยการตัดหญ้าเมื่อหญ้ารก และปล่อยปรก ณ โคนต้นนั้นๆ กับ รดน้ำเท่านั้นเองครับ ลองกอง รดชาติเยี่ยม ให้ผลปีละ ๒ ครั้ง มีออกเท่าไหร่ก็ขายหมดครับ
ท่านจะเอาอย่าง ท่านอาจารย์ฯ ของผมบ้างไหมครับ ?